ทำนายฝันเมื่อฝันเห็นพระภูมิเจ้าที่
เมื่อฝันเห็นพระภูมิเจ้าที่ ท่านว่าจะมีโชคลาภ ต้องแก้ให้ถูกคือสะเดาะเคราะห์ทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรก่อน แล้วจะมีลาภสมใจนึก ได้แก่เลข 2 หรือ 5 หรือ 9

วันที่ฝัน
วันอาทิตย์
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่คนทั้งปวง
วันจันทร์
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่วงศ์ตระกูลของตน
วันอังคาร
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่บิดามารดาของตน
วันพุธ
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่บุตรภรรยาของตน
วันพฤหัสบดี
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่ครูบาอาจารย์และอุปัชฌาย์
วันศุกร์
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่สัตว์พาหนะได้แก่ ช้าง ม้า วัว ควาย
เสาร์
ทุกข์สุขจะอุบัติแก่ตนเอง

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับคำทำนายฝัน
มูลเหตุแห่งความฝัน
ในคัมภีร์สารัตถสังคหะในพระพุทธศาสนา ได้ให้มูลเหตุแห่งความฝันไว้อย่างมีเหตุผลที่ดี คือกล่าวว่า คนที่มีความฝันนั้น มักจะเนื่องจากเหตุใดเหตุหนึ่ง ดังต่อไปนี้
๑. ฝันเนื่องจากธาตุในร่างกายไม่ปกติ เช่น กินอิ่ม ท้องเสีย หรือเจ็บป่วยแล้วฝันประการหนึ่ง
๒. เนื่องจากจิตใจผูกพันประหวัดในสิ่งใดสิ่งหนึ่งประการหนึ่ง
๓. ฝันเนื่องจากเทวดาปรารถนา จะสังหรณ์ให้ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าและ
๔. ฝันอันเนื่องจากอำนาจแห่งกุศลกรรม และอกุศลกรรมบันดาล ให้เป็นเรื่องดีหรือร้าย ที่เรียกว่า บุพนิมิต อีกอย่างหนึ่ง
ความฝันในข้อ ๑ หรือ ๒ ย่อมเป็นความฝันที่ไม่แน่นอน เมื่อพิจารณาคำทำนายฝัน จะต้องดูสาเหตุเหล่านี้ว่า มีมากน้อยเพียงใดประกอบด้วย

เวลาที่ฝัน
นอกจากนั้นยังต้องดูเวลาที่ฝันที่เรียกว่ายามประกอบด้วย โดยความฝันในเวลากลางวันหรือปฐมยาม คือช่วงเวลา ๐๖.๐๐ - ๒๒.๐๐น. เป็นความฝันที่ไม่ควรเอามาทำนายฝันเนื่องจากอาหารที่กินเข้าไปยังไม่ย่อยหมดร่างกายไม่เป็นปกติ ส่วนมัชฌิมยาม เวลา ๒๒.๐๐-๐๒.๐๐ น. เป็นความฝันที่ไม่ค่อยแน่นอนเนื่องจากบางคนร่างกายปกติแล้วแต่อีกบางคนยังไม่ปกติ ส่วนความฝันในช่วงปัจฉิมยามคือเวลา ๐๒.๐๑-๐๖.๐๐ น. ร่างกายและจิตใจเป็นปกติแล้ว ฝันนั้นมักจะเป็นจริงเที่ยงแท้คือฝันดีคงได้ดี ส่วนฝันร้ายอาจจะร้าย อนึ่งท่านว่า
ถ้าฝันในปฐมยามฝันดีหรือฝันร้ายจะเห็นผลภายใน ๘ เดือน
ถ้าฝันในมัชฌิมยาม จะรู้เหตุภายใน ๔ เดือน
ถ้าฝันในปัจฉิมยาม จะรู้เหตุในวันหรือ ๒ วัน

วันที่ฝันทางจันทรคติ
ขึ้น ๑ ค่ำ
เป็นฝันที่ดี แม้ฝันร้ายก็จะบรรเทา
ขึ้น ๒ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อไม่ได้ แต่ยังมีส่วนดีบ้าง
ขึ้น ๓ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อไม่ได้เลย
ขึ้น ๔ ค่ำ
ฝันที่ดีจะเป็นจริง ฝันที่ร้ายจะไม่เป็นจริง
ขึ้น ๕ ค่ำ
เป็นฝันที่ไม่แน่นอน
ขึ้น ๖ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อไม่ได้
ขึ้น ๗ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อได้
ขึ้น ๘ ค่ำ
เป็นฝันที่พอเชื่อได้
ขึ้น ๙ ค่ำ
เป็นฝันที่พอเชื่อได้
ขึ้น ๑๐ ค่ำ
เป็นฝันที่ไม่แน่นอน
ขึ้น ๑๑ ค่ำ
เป็นฝันที่จะเป็นจริงตามคำทำนาย แต่รอหลายวันภายหลัง
ขึ้น ๑๒ ค่ำ
เป็นฝันที่ตรงกันข้าม คือฝันดีจะร้ายฝันร้ายจะดี
ขึ้น ๑๓ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อไม่ได้
ขึ้น ๑๔ ค่ำ
เป็นฝันที่ไม่แน่นอน
ขึ้น ๑๕ ค่ำ
เป็นฝันที่จะเป็นจริงใน ๑๐ วัน นับจากวันที่ฝัน
แรม ๑ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อได้
แรม ๒ ค่ำ
เป็นฝันที่จะเป็นจริงใน ๓ วัน
แรม ๓ ค่ำ
เป็นความฝันที่ไม่แน่นอน
แรม ๔ ค่ำ
เป็นฝันที่ดี แม้ฝันร้ายก็จะกลายเป็นดี
แรม ๕ ค่ำ
เป็นฝันที่เป็นจริงใน ๔ วันข้างหน้า
แรม ๖ ค่ำ
เป็นความฝันที่เชื่อถือไม่ได้
แรม ๗ ค่ำ
เป็นความฝันที่มีผลในระยะเวลาอันใกล้
แรม ๘ ค่ำ
เป็นฝันที่ไม่แน่นอน
แรม ๙ ค่ำ
เป็นฝันที่ดี
แรม ๑๐ ค่ำ
เป็นความฝันที่ไม่แน่นอน
แรม ๑๑ ค่ำ
เป็นความฝันที่เชื่อถือได้ และเตือนให้ระวังตัว
แรม ๑๒ ค่ำ
เป็นฝันที่ไม่แน่นอน
แรม ๑๓ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อได้
แรม ๑๔ ค่ำ
เป็นฝันที่เชื่อได้
แรม ๑๕ ค่ำ
ไม่ว่าจะดีหรือร้ายจะเป็นตามคำทำนายในวันนั้นเอง
การแก้ฝัน
ตามประเพณีของไทยเรานั้น นอกจะมีการทำนายฝันแล้วยังมีการแก้ฝันอีกด้วย การแก้ฝันนั้นเป็นวิธีการที่จะช่วยให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี หลักการใหญ่ๆในการแก้ฝัน ก็คือถ้ามีคำทำนายฝันไปในทางด้านร้าย ก็ให้ทำบุญตักบาตรหรือทำบัตรพลีบูชาเทวดาหรือเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสีย และมีการแก้ฝันต่อบุคคล หรือในสถานที่กำหนด การแก้ฝันเท่าที่มีการทำกันมานับว่ามีผลดี และเป็นเครื่องช่วยกำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง
สำหรับผู้ไม่สะดวกในการแก้ฝันร้าย ท่านสามารถสวดพุทธมนต์ อภยปริตร จะผ่อนฝันร้ายที่หนักให้เป็นเบา โดยบทสวดอภยปริตรมีบทสวดดังนี้
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
เมนูดูดวงแบบต่างๆ

เป็นการดูดวงโดยอาศัยตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้า โหราศาสตร์ไทยเป็นโหราศาสตร์ชั้นสูงของไทยโดยพัฒนามาจากโหราศาสตร์ของอินเดียในสมัยกรุงสุโขทัย และได้พัฒนาต่อยอดตามลำดับจนถึงปัจจุบัน

เป็นการดูดวงโดยอาศัยตำแหน่งของลัคนาและพระจันทร์ในการพยากรณ์ การพยากรณ์ด้วยฤกษ์นั้นเป็นการคำนวณขั้นสูง ที่จะหาราศีและองศาของลัคนาเพื่อที่จะคำนวณฤกษ์ของลัคนา ส่วนฤกษ์ดาวจันทร์นั้นก็ต้องคำนวณราศีและองศาของพระจันทร์เช่นเดียวกัน

การดูดวงด้วยกราฟชีวิตเป็นการดูดวงโดยใช้วันเดือนปีเกิดเป็นสำคัญและใช้เวลาเกิดเพื่อหาวันเดือนปีเกิดที่ถูกต้อง การดูดวงด้วยกราฟชีวิตจะแบ่งภพออกเป็น 12 ภพเช่นเดียวกับโหราศาสตร์ไทยแต่ใช้วันเดือนปีเกิดเพื่อหาเลขประจำฐานทั้ง 12 แทนตำแหน่งของดาวในราศีจักร

เศษพระจอมเกล้าหรือการทายเศษชะตากำเนิดนี้ ว่ากันว่าเป็นตำราดูดวงที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวดำริขึ้น เป็นการพยากรณ์ด้วยวิธีง่าย ๆ แต่มีความแม่นยำมากวิธีหนึ่ง

การวิเคราะห์ชื่อนี้ จะใช้ทักษา เลขศาสตร์ และอายตนะ ๖ ในการวิเคราะห์ชื่อ

การวิเคราะห์ชื่อด้วยตุ๊กตาไขนามเป็นการวิเคราะห์ชื่อได้ดีวิธีหนึ่ง เป็นการนำศาสตร์การตั้งชื่อของมอญในสมัยโบราณมาประยุกต์ใช้สำหรับการวิเคราะห์ชื่อและพยากรณ์ชื่อนั้นๆจะมีผลต่อชะตาชีวิตแก่เจ้าของชะตาอย่างไร

การดูดวงด้วยตำราโยคไก่แก้ว เป็นการดูโชคเคราะห์ประจำปี ว่าในปีนี้มีโชคเคราะห์อะไรบ้าง อีกทั้งได้แบ่งย่อยอายุเป็นสามช่วง ช่วงละ 4 เดือนทำให้ทั้งปีชะตาไม่ได้ร้ายทั้งปี หรือเสียทั้งปี

การดูดวงด้วยเลขโหรา เป็นการโชคเคราะห์ประจำปี ว่าในปีนี้มีโชคเคราะห์อะไรบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้แบ่งอายุออกเป็น 3 ช่วง เหมือนโยคไก่แก้ว แต่จะบอกวิธีทำบุญเพื่อลดเคราะห์ร้าย เพิ่มโชคดีในปีนั้น

เป็นตำราที่แม่นยำตำราหนึ่ง ซึ่งได้ใช้กันแพร่หลายเป็นอันมาก เดิมเป็นตำราของชาวยิปซี แล้วถูกถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษ ตำราโอเรกุรัม เป็นตำราที่ไขความข้องใจของผู้รับคำพยากรณ์อย่างง่ายได้เป็นอันดี
ทำนายฝัน